ฉี่รดที่นอน เด็กฉี่รดที่นอน โตแล้วยังฉี่รดที่นอน ลูกฉี่รดที่นอน
"ลูกโตจนอายุตั้ง 11 ขวบ แล้วนะทำไมถึงยังฉี่รดที่นอนได้ทุกวัน แม่บอกให้ลุกขึ้นมาฉี่ตอนกลางคืนก็ไม่ยอมตื่น แล้วอย่างนี้ จะแก้นิสัยได้อย่างไร"
ปัญหาการฉี่รดที่นอนของเด็กมักจะเกิดกับเด็กในวัย 3 ขวบ เป็นส่วนใหญ่ และเริ่มลดน้อยลงตามลำดับอายุตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึงอายุ 18 ปี การฉี่รดที่นอนของเด็ก ในช่วงวัยเริ่มต้นจนถึงอายุไม่เกิน 6 ขวบเป็นเรื่องปกติของเด็ก โดยในตอนกลางวันเด็กจะไม่ฉี่ราด แต่ในตอนกลางคืนเด็กจะขับปัสสาวะออกมา โดยไม่รู้ตัว เด็กที่มีพฤติกรรมชอบฉี่ราดที่นอนจนเป็นปกตินิสัย ส่วนใหญ่จะมีกระเพาะปัสสาวะที่เล็ก ซึ่งไม่สามารถเก็บกักปัสสาวะไว้ได้นาน ตลอดทั้งคืน และมักจะไม่ยอมตื่นเมื่อมีความรู้สึกว่าปวดปัสสาวะ
เคล็ดลับช่วยไม่ให้ลูกฉี่รดที่นอน
- พยายามที่จะเตือนและบอกลูกก่อนนอนว่า ให้ตื่นขึ้นมาฉี่ในห้องน้ำ โดยคุณอาจจะเปิดไฟในห้องน้ำรอไว้ให้ลูกเลยในกรณีที่ลูก ไม่สามารถเอื้อมเปิดไฟได้ หรือคุณอาจจะเตรียมกระโถนไว้ให้ข้างเตียง
- อย่าปลุกลูกให้ตื่นไปฉี่ในตอนกลางคืนด้วยตัวของคุณเอง พยายามฝึกให้แกมีความรับผิดชอบตนเอง โดยคุณอาจจะวางนาฬิกาปลุก ให้แกสักเครื่อง เพราะเมื่อตราบใดที่คุณยังปลุกแกทุกวันแกก็จะไม่ยอมตื่นง่าย ๆ และทำให้เสียนิสัยไม่ยอมช่วยตนเองไปจนโต
- ถ้าลูกฉี่บ่อยๆ ในช่วงเวลากลางวัน พยายามบอกให้ลูก รู้จักฝึกอดกลั้นไม่ฉี่บ่อยๆ โดยพยายามยืดช่วงเวลาให้นานขึ้น ในแต่ละครั้งที่เข้าห้องน้ำ แต่ถ้าลูกไม่ยอมก็ไม่ต้องไปบังคับ จนเกิดการทะเลาะกันขึ้น
- อย่าเตือนให้ลูกเข้าห้องน้ำตอนกลางวัน แต่ควรเตือนให้ลูกเข้าห้องน้ำช่วงกลางคืนโดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอน
- พยายามให้ลูกดื่มน้ำมากๆ ในตอนเช้า และช่วงสายในตอนเช้า ทั้งนี้เพราะการที่ลูกดื่มน้ำเข้าไปได้มากเท่าไร ก็จะทำให้กระเพาะปัสสาวะ ขยายใหญ่ขึ้น แต่ก็จะทำให้ลูกมีปริมาณน้ำปัสสาวะมากขึ้นเช่นกัน
- พยายามใช้คำพูดที่นิ่มนวลถ้าเห็นว่า ลูกดื่มน้ำมากเกินไปก่อนเวลาเข้านอน 2 ชั่วโมง แต่ไม่ต้อง เคร่งครัดมากถึงกับต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่มให้ลูก
- ก่อนเข้านอนควรให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาพอสมควร โดยอาจให้สวมทับชุดนอนอีกชั้นหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้เตียงเปียก สำหรับเด็กที่มีอายุไม่ถึง 4 ขวบ ควรให้ใส่ผ้าอ้อม รองกันเปื้อน (Diapers) แต่ถ้าเด็กอายุเกิน 4 ขวบแล้ว ควรใช้แผ่นพลาสติกปูรองกับเบาะแทนการใช้ผ้าอ้อมรองกันเปื้อน
- ทุกๆ เช้าถ้าตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าลูกฉี่รดที่นอน ควรฝึกลูกให้เป็นนิสัย ด้วยการให้ลูกนำชุดที่เปียกไปจุ่มลงในอ่างน้ำ เพื่อขจัดกลิ่นฉี่ก่อนนำรวมซัก และควรให้ลูกอาบน้ำทุกวันก่อนไปโรงเรียนด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ มีกลิ่นฉี่ติดตัว ซึ่งอาจทำให้เพื่อนล้อและรังเกียจได้ ถ้าคุณไม่มีเวลาซักผ้าทุกวัน ก็ควรหาผ้ารองฉี่ปูไว้ที่บริเวณก้นของลูกทุกคืนถ้าผ้ารองฉี่เปียกในตอนเช้า ก็นำไปจุ่มน้ำบิดให้แห้งและตากไว้ก่อนเพื่อป้องกันกลิ่นเหม็น จนกว่าคุณจะมีเวลาทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
- ถ้าในกรณีที่ลูกฉี่รดที่นอนควรรีบเปิดหน้าต่างห้อง เพื่อให้แสงแดด ส่องเข้ามาและระบายกลิ่นอับด้วย อย่างไรก็ตามควรซักล้างที่นอน ทุกสัปดาห์และตากไว้ให้แห้ง จะช่วยทำให้ขจัดกลิ่นฉี่ที่ติดอยู่กับที่นอนได้ดี
- ถ้าวันไหนที่ลูกไม่ฉี่รดที่นอน ควรให้คำชมและให้รางวัล ด้วยการติดสติ๊กเกอร์รูปดาวหรือสติ๊กเกอร์หน้ายิ้มที่ปฏิทิน โดยติดให้ตรงกับวันที่ลูกไม่ฉี่รดที่นอน ทั้งนี้เพื่อดูว่า ลูกมีพัฒนาการดีขึ้นในแต่ละเดือนหรือไม่
- ถ้าลูกยังไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็อย่าท้อแท้ใจและพานอารมณ์เสีย เพราะเด็กทุกคนก็ไม่ชอบที่จะตื่นขึ้นมาในสภาพที่เปียกเฉอะแฉะ เด็กที่มีปัญหานี้มักจะต้องการความเห็นอกเห็นใจ ไม่ชอบการถูกต่อว่า หรือถูกทำโทษด้วยการตี คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้พี่น้องของลูกทุกคนเข้าใจ และเห็นใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ควรปล่อยให้มีการล้อเลียน จนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน
ทำอย่างไรเมื่อลูกอายุ 6 ขวบ แล้วแต่ยังฉี่รดที่นอนอีก สร้างโปรแกรมการฝึกตื่นนอนด้วยจิตตนเอง และพยายามฝึกให้ลูกทุกวัน ก่อนเวลาเข้านอน วิธีการฝึกมีดังต่อไปนี้
- นอนราบบนที่นอนแล้วปิดตาทั้งคู่ให้สนิท โดยให้สมมติว่าใน ขณะนี้เป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว
- ให้นึกภาพว่าขณะนี้ตนเองมีความรู้สึกว่ากำลังปวดปัสสาวะถี่ ขึ้นเรื่อย ๆ
- ให้นึกภาพว่าความรู้สึกดังกล่าวกำลังจะทำให้คุณตื่นจากการ นอนหลับ
- ให้นึกภาพว่าความรู้สึกของคุณตอนนี้เหมือนกับว่าได้ยิน เสียงใครเรียกให้ตื่นก่อนที่จะฉี่รดที่นอน จากนั้นก็ให้รีบตื่นขึ้นและวิ่งไปเข้าห้องน้ำให้ทันท่วงที เตือนตนเองให้ตื่นและพยายามทำอย่างที่ฝึกฝนให้ได้ เมื่อถึง เวลานั้น
ถ้าลูกของคุณรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะความเปียกชื้น คุณควรบอกให้ลูกรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่และเข้าห้องน้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ เมื่อลูกจะเข้านอนอีกครั้งก็ให้ใช้ผ้าปูรองตรงส่วนที่เปียกเสียก่อน เด็กที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในขณะที่ตนเองเปียกชื้นนั้น ในอีกไม่นาน ก็จะสามารถตื่นขึ้นมาได้เองเมื่อรู้สึกว่าตนเองเริ่มปวดฉี่ และจะไม่ฉี่รดที่นอนอีก แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ ก็อย่าเพิ่งใจร้อน เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นย่อมต้องใช้เวลา และความพยายาม แต่ในที่สุดก็จะเลิกฉี่รดที่นอนได้เองเมื่อแกโตมากขึ้น
การที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจลูกในปัญหาดังกล่าว จะช่วยทำให้ลูกมีกำลังใจ และพยายามฝึกตนเองไม่ให้ฉี่รดที่นอนได้ดีมากกว่าเด็กที่ถูกดุด่าว่ากล่าว และถูกตำหนิในความผิดที่ตนเองทำขึ้น ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีความรู้สึกอาย และขาดความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะมีผลต่อการปรับตัวของเด็กในสังคมต่อไป
คัดลอกจาก อารยา ทวิชศรี http://www.elib-online.com/doctors/mental_urine2.html
แผ่นรองกันน้ำแบบซักได้ Supersorber/ผ้าอ้อมซักได้ มีคุณสมบัติอย่างไร คลิ้กดูรายละเอียดที่นี่
การสั่งซื้อแผ่นรองที่นอน ลูกค้าสามารถโอนเงิน ส่งชื่อผู้รับ ที่อยู่และเบอร์โทร หมายเลขบัญชี และ e-mail คลิ้กที่นี่
- Double Click ที่นี่ เพื่อการเลือกใช้งาน Supersorber ที่เหมาะสม
- Double Ckick ที่นี่ เพื่อดูรายละเอียด Supersorber แต่ละประเภท
คำค้นหา: ฉี่รดที่นอน ปัญหาฉี่รดที่นอน, เด็กฉี่รดที่นอน, โตแล้วยังฉี่รดที่นอน, ลูกฉี่รดที่นอน
ความคิดเห็น